วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ พร้อมด้วย นางสาวจิรฐา วัฒนประดิษฐ์ ผู้จัดการโครงการด้านประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ จัดกิจกรรมเพื่อสังคม “รฟม. รวมพลังน้ำใจ สู้ภัย COVID-19” ส่งมอบข้าวสาร และอาหารแห้ง รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือแรงงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดยมี นายวิฑูรย์ สลิลอำไพ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี, นายชลิต รัตนวิสาลนนท์ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง, นายโชตินัย ชวดฉิม บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน), นายบุญรักษ์ สุวรรณานนท์ กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที และนายกมล มหาผล บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นผู้แทนรับมอบ หลังจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย จะนำข้าวสารและอาหารแห้งดังกล่าว กระจายไปยังแคมป์ก่อสร้างทั้งหมดของโครงการโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของแรงงานก่อสร้างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งเป็นเหตุจำเป็นให้ต้องมีการปิดแคมป์คนงานและสถานที่ก่อสร้างชั่วคราว ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ข้อ 2 การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และประกาศของกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564
ทั้งนี้ รฟม. และทุกโครงการจะยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นและรัดกุมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตลอดจนเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จะกลับสู่ภาวะปกติ